Tuesday, April 21, 2009

การกระโดดร่มจากบอลลูน



ประวัติ/คุณลักษณะและขีดความสามารฤถของบอลลูน
1. ประวัติบอลลูนต่างประเทศ
ความคิดของมนุษย์เกี่ยวกับเรื่องบอลลูน หรือ ยวดยานที่สามารถลอยตัวในอากาศได้นั้น มีมานานแล้วแต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดตามเหตุผลของคนไทยในสมัยก่อนที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญเหมือนในปัจจุบัน
จากความพยายามของชาวอังกฤษ นายโรเยอร์ เบคอน นักปราชญ์ชาวอังกฤษที่มีความคิดเกี่ยวกับการบิน ได้ประดิษฐ์เครื่องลอยในอากาศขึ้น การศึกษาและค้นคว้าพัฒนา ได้มีมาตลอดเวลาจนกระทั่ง เมื่อเดือน กันยายน ค.ศ.1783 บอลลูนที่บรรทุกสิ่งมีชีวิตได้ลอยขึ้นไปในอากาศเป็นครั้งแรก ผลิตขึ้นโดย พี่น้องตระกูล มองกอฟเฟอร์ (MONGOLFIER) ชาวฝรั่งเศสเป็นบอลลูนชนิดที่บรรจุด้วยอากาศร้อน (HOT AIR BALLOON) โดยอาศัยหลักที่ว่า อากาศที่ขยายตัวเมื่อได้รับความร้อน จะเบากว่าอากาศธรรมดา และถ้าบรรจุอากาศนี้เข้าไปในถุงก็สามารถลอยได้
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ.1783 ยีน ฟรังซัว พีเล (JEAN FRANCOIS PELE) และมาควิสเคอ อาลาน ได้เป็นบุคคลชุดแรกที่ขึ้นไปกับบอลลูนของ มองกอฟเฟอร์ สำเร็จ โดยใช้เวลาอยู่ในอากาศได้นานถึง 23 นาที
ปี ค.ศ.1783 นี้ นับได้ว่าเป็นปีทองแห่งความสำเร็จในการคิดค้น และผลิตบอลลูน ก่อนปี ค.ศ.1783 จะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม เจ.เอ.ชารส์ (J”A” CHARLES) นักเคมีชาวฝรั่งเศสได้ผลิตบอลลูน ซึ่งบรรจุด้วยก๊าซไฮโดรเจนสำเร็จ และทดลองใช้ เขาสามารถใช้เวลาอยู่ในอากาศได้ถึง 1 ชม. 15 นาที และลอยไปไกลจากจุดปล่อยได้ถึง 27 ไมล์
ปี ค.ศ.1926 กองทัพอากาศอังกฤษได้ทำการทดลองอย่างจริงจังและได้เลือกบอลลูนชนิดที่มีสายยึด (CAPTIVE BALLOON) ไม่ปล่อยอิสระ และยังมีใช้อยู่จนปัจจุบันเป็นบอลลูน แบบ เอ็ม.เค.11 บรรจุด้วยก๊าซไอโดรเจน ปริมาตรบรรจุ 45,000 ลูกบาตรฟุต นับว่าอังกฤษเป็นประเทศแรก ที่ใช้บอลลูนในกิจการทหาร นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว ประเทศเบลเยียม ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ใช้บอลลูนในการกระโดดร่ม
ประเทศฝรั่งเศส เคยใช้บอลลูนชนิดอิสระในการติดต่อสื่อสารระหว่างกรุงปารีส กับ –
ต่างประเทศ
ประเทศเยอรมัน เคยใช้บอลลูนชนิดอิสระในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 1 และ 2 ในการ –
ตรวจการณ์
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ใช้บอลลูนในกิจการต่าง ๆ เช่น กิจการโทรทัศน์ การเกษตร –
รวมทั้งในการกีฬาด้วย


2. ประวัติบอลลูนไทย
ประเทศไทย ได้จัดหาบอลลูนมาใช้ในกิจการทหาร เช่นเดียวกับต่างประเทศที่กล่าวมาแล้ว โดยมีความมุ่งหมาย เพื่อใช้ในการกระโดดร่มเป็นบอลลูนชนิดไม่อิสระ (CAPTIVE BALLOON) ผูกยึดติดไว้กับรถกว้าน (WINCH) บรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม ปริมาตรบรรจุก๊าซ 50,000 ลูกบาศก์ฟุต ขนาดใหญ่กว่าของประเทศอังกฤษ การที่ไม่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน เหมือนประเทศอังกฤษ เพราะว่าก๊าซฮีเลียมมีคุณสมบัติติดไฟยากกว่าก๊าซไฮโดรเจน เหมาะสำหรับที่จะใช้ในประเทศไทย ซึ่งมีสภาพอากาศอยู่ในย่านมรสุมมีฝนฟ้าคะนองอยู่เสมอ ซึ่งไฟฟ้าสถิตในอากาศอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ และบอลลูนชนิดนี้มีใช้อยู่ในประเทศไทยถึงปัจจุบันนี้
ในปี พ.ศ.2516 ประเทศไทยได้ส่งนักกระโดดร่มเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารโลกที่ประเทศเบลเยียม ในการแข่งขันครั้งนั้นได้มีการนำบอลลูน มาใช้เพื่อการกระโดดร่มด้วย พล.ต.อเนก บุนยถี ผบ.ศสพ. (ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมทีมนักกีฬากระโดดร่มของไทย ได้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของบอลลูน ในการที่จะนำมาใช้ในกิจการฝึกทหารพลร่มของประเทศไทย เพราะราคาน้ำมันเครื่องบิน ฯลฯ มีราคา แพงขึ้นมาก ประกอบกับ ศสพ. ได้รับการสนับสนุนเที่ยวบินในการฝึกกระโดดร่มไม่เพียงพอกับจำนวนทหารพลร่มของประเทศ ที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นบอลลูนจึงมีความสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2523 ศสพ. จึงได้มีการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ จำนวน 15 นาย ไปประเทศ
อังกฤษเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการใช้บอลลูนกระโดดร่ม ตั้งแต่ 8 กันยายน 2523 ถึง 15 ตุลาคม 2523 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้กลับมาช่วยราชการที่ รร.สพศ.ศสพ. และเป็นเจ้าหน้าที่หลักในการใช้บอลลูนเพื่อการกระโดดร่ม ต่อมาเมื่อ 23 กันยายน 2524 พันโท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (พระยศในขณะนั้น) ทรงกระทำพิธี เปิดการใช้บอลลูนเพื่อการกระโดดร่ม ที่สนามกระโดดร่มเขาพระพุทธ ทั้งนี้ ศสพ. ได้ขอพระราชทานพระนามของพระเจ้าหลานเธอฯ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็น ชื่อบอลลูน คือ พัชรกิติยาภา และชื่อสนามกระโดดร่มเขาพระพุทธเป็นสนามกระโดดร่ม พัชรกิติยาภา ตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2525
3. ชนิดบอลลูน
บอลลูน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. บอลลูนชนิดอิสระ (FREE BALLOON)
2. บอลลูนชนิดล่าม (CAPTIVE BALLOON)
บอลลูนชนิดอิสระ คือ บอลลูนที่ลอยอยู่ในอากาศ โดยมิได้มีสิ่งใดผูกยึด หรือล่ามอยู่
บอลลูนชนิดนี้สามารถบังคับได้หลายวิธี เช่น บังคับโดยคนที่ขึ้นไปกับบอลลูนในกระเช้า หรือด้วยเครื่องกลอัตโนมัติซึ่งขึ้นไปกับกระเช้าบอลลูน บอลลูนชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับศึกษาสภาวะของอากาศชั้นสูง ๆ และชั้นต่าง ๆ ของบรรยากาศ

บอลลูนชนิดล่าม คือ บอลลูนชนิดที่มีสายล่ามติดระหว่างตัวบอลลูนชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเสาอากาศสำหรับวิทยุโทรทัศน์ เป็นเครื่องช่วยในการสื่อสารหรือใช้ในการโฆษณาสินค้า เพราะเป็นสิ่งที่แปลกและถึงดูดสายตา บอลลูนชนิดนี้เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 มานานแล้ว ใช้สำหรับเป็นที่ตรวจการณ์ และใช้ป้องกันการโจมตีของเครื่องบิน เป็นต้น
4. คุณลักษณะและขีดความสามารถของบอลลูนไทย
คุณลักษณะ บอลลูนของไทยเป็นบอลลูนชนิดล่าม แบบ พี.ที.บี.50/ที.เอช. มีรูปเพรียวลม ส่วนใหญ่และเรียวเล็กลงไปทางท้าย เพื่อลดการต้านลม
ตัวบอลลูนรวมทั้งสายโยงยึดต่าง ๆ หนัก 500 กิโลกรัม
ความยาว 28.4 เมตร
ความกว้าง 10.2 เมตร
บรรจุด้วยก๊าซฮีเลี่ยม ปริมาตรบรรจุ 1,500 ลบ.ม. (54,000 ลบ.ฟุต)
กระเช้าบอลลูนแบบ 1.876.01 หนัก 200 กิโลกรัม
ขีดความสามารถ เมื่อบรรจุก๊าซเต็มพร้อมใช้งาน 1,400 ลบ.ม. (49,000 ลบ.ฟุต) ในการฝึก
กระโดดร่ม ที่ความสูง 250 เมตร หรือประมาณ 800 ฟุต นั้น จะสามารถ ยกน้ำหนักได้ 740 กิโลกรัม หรือสามารถบรรทุกนักกระโดดร่มได้สูงสุด จำนวน 8 นาย ใช้เวลาทำการกระโดดในความสูง 800 ฟุต 1 เที่ยว ประมาณ 8-10 นาที ในสภาพอากาศปกติ สามารถใช้ในการฝึกการกระโดดร่มได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
ส่วนประกอบของตัวบอลลูน ตัวบอลลูนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. ส่วนบรรจุก๊าซ อยู่ส่วนบนของบอลลูน มีลักษณะเป็นห้องสำหรับบรรจุก๊าซ
2. ส่วนบรรจุอากาศ อยู่ส่วนล่างของตัวบอลลูน โดยมีผนังกั้นแบ่งระหว่างส่วนบนกับ
ส่วนล่าง ส่วนนี้จะพองตัวเมื่อมีอากาศพัดผ่านเข้าไป
3. ส่วนท้าย เป็นส่วนที่อยู่ของชุดควบคุมการทรงตัว ประกอบด้วยครีบหาง และหางเสือ
ส่วนนี้จะทำงานเมื่อมีลมพัดผ่านเข้าไปอยู่ภายใน


*******************

เอกสารอ้างอิง
- รปจ. รร.สพศ.ศสพ. ว่าด้วยการใช้บอลลูนสนับสนุนการกระโดดร่ม พ.ศ.2544

No comments:

Post a Comment