Leave No Man Behind
Official websitemore info. from IMDB
แนว : สงคราม / ดราม่าความยาว : 144 นาทีกำหนดฉาย : 8 มีนาคม 2545 วันที่ 3 ตุลาคม 1993 : ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ... ถ้าทุกอย่างในสงครามสามารถกำหนดขึ้นได้โดยง่าย การบีบคั้นจากอาคารเป้าหมาย ในย่านดาวน์ทาวน์ของโมกาดีชู นายทหารโซมาเลียสองนาย และผู้ร่วมมือคนอื่นๆ ของผู้นำทัพ โมฮาเมด ฟาร์ราห์ ไอดิด ผู้นำชนกลุ่มน้อยฮับร์ กิดร์ ตั้งมั่นที่จะรักษาอำนาจ เหนือประเทศที่สับสนอลหม่านของเขา แม้ว่านั่นจะหมายถึงความหิวโหย และการสูญเสียชีวิตของชาวโซมาเลีย เพื่อนร่วมชาติเดียวกัน ทหารสหรัฐฯ เดินทางมายังโซมาเลีย ในฐานะส่วนหนึ่ง ของกองกำลังนานาชาติ ประจำสหประชาชาติ ที่เข้ามาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และปกป้องประชาชนผู้หิวโหยทั่วอัฟริกาตะวันออก ซึ่งความขาดแคลนอาหาร ได้สังหารชีวิตประชาชนไปกว่าสามแสนคน โดยสาเหตุหนึ่ง เกิดมาจากการที่ผู้มีอำนาจอย่างไอดิด ได้สั่งเก็บอาหาร ที่สหประชาชาติส่งมาช่วยประชาชน พวกเขายังสังหารเพื่อนร่วมชาติ เมื่อพวกนั้นพยายามออกมารับของบรรเทาทุกข์ และหนึ่งในการตอบโต้ของชนเผ่าฮับร์กิดร์ ต่อความพยายามของสหประชาชาติก็คือ การซุ่มโจมตีและสังหารทหารปากีสถาน 24 นาย
ทางสหรัฐฯ หวังจะตัดมือและเท้าของไอดิด ด้วยการจับกุมตัวสองนายทหารคู่ใจ ซึ่งจะเท่ากับเป็นการริดรอนอำนาจของไอดิดทีละน้อย ภายใต้การบัญชาการของ นายพลวิลเลี่ยม เอฟ แกร์ริสัน ภารกิจครั้งนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่การจับกุมตัวผู้นำชนกลุ่มน้อย ที่จะมาประชุมกันในบ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ โรงแรมโอลิมปิค บนถนนฮอว์ลวาดิก ในย่านดาวน์ทาวน์ของโมกาดีชู ทหารสหรัฐฯ 75 นายที่แบ่งออกเป็นสี่หน่วย จะโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กสี่ลำ เพื่อคุ้มกันกองกำลังจู่โจม จากหน่วยเดลต้าทั้งหมด 40 ชีวิต ที่จะบุกเข้าไปในตัวอาคาร จับตัวเป้าหมาย และนำตัวไปยังขบวนรถฮัมวีสและรถบรรทุก 12 คัน ที่จะวิ่งมาตามถนนฮอว์ลวาดิกเพื่อรับตัวนักโทษ และพาตัวส่งฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ห่างออกไปนอกเมืองประมาณสามไมล์ ใกล้ๆ กับมหาสมุทรอินเดีย
ภารกิจมีกำหนดการจะเริ่มต้นขึ้นที่เวลาบ่าย 3 โมง 42 นาที และใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง แว่นตาสำหรับมองภาพตอนกลางคืน และเครื่องมือพิเศษอื่นๆ ถูกทิ้งไว้ที่ฐานทัพสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสามไมล์ ใกล้ๆ มหาสมุทรอินเดีย.. อันเนื่องมาจากไม่จำเป็นต้องใช้ในงานครั้งนี้ แต่เมื่อเครื่องแบล๊กฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์วัน และซูเปอร์ซิกซ์โฟร์ถูกยิงตก ในระยะเวลาห่างกัน 20 นาที การปฏิบัติภารกิจต้องพลิกจุดมุ่งหมาย จากการโจมตีไปเป็นภารกิจช่วยเหลือ และเมืองโมกาดีชูกลับกลายเป็นเหมือนรังแตน เมื่อทหารอเมริกันที่เครื่องตกลงสู่พื้นต้องพบว่า พวกเขาถูกพลเรือนชาวโซมาเลีย ที่มีอาวุธครบมือโจมตี การต่อสู้ทวีความรุนแรงตลอดทั้งค่ำคืน จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 4 ตุลาคม เป็นผลให้ชาวอเมริกันเสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บ 73 คน ทางด้านชาวโซมาเลีย ที่แสดงความเกรี้ยวกราดต่อทหารอเมริกัน ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูและผู้บุกรุก ก็ได้รับบาดเจ็บและล้มตายมากมายเช่นกัน
2:49 PM ผู้นำชนกลุ่มน้อยฮับร์กิดร์ เป้าหมายของภารกิจ มารวมตัวกันที่อาคารแห่งหนึ่ง บนถนนฮอว์ลวาดิก ในย่านดาวน์ทาวน์ของโมกาดีชู
3:32 PM กองกำลังเริ่มปฏิบัติงานพร้อมเครื่องบิน 19 ลำ รถ 12 คัน และกองกำลัง 160 คน
3:42 PM การจู่โจมเริ่มต้น โดยทหารสี่หน่วยโรยตัวอย่างรวดเร็ว จากเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กสี่ลำ และทหารหน่วยเดลต้า ฟอร์ซ เคลื่อนกำลังจากเครื่องบินลิตเติลเบิร์ด พลทหาร ท็อดด์ แบล๊กเบิร์น ตกจากเชือกสู่ถนนด้วยความสูง 60 ฟุต
4:00 PM กองทัพติดอาวุธโซมาเลียทั่วโมกาดีชู มารวมตัวกัน ณ พื้นที่เป้าหมาย
4:02 PM หน่วยจู่โจมรายงานว่าทั้งกลุ่มผู้นำและคนอื่นๆ อีก 21 คนอยู่ในความควบคุมแล้ว เมื่อหน่วยจู่โจมเตรียมตัวถอนกำลัง รถสามคันถูกส่งไปรับพลทหารแบล๊กเบิร์น ที่ได้รับบาดเจ็บกลับไปยังฐานทัพ
4:15 PM การต่อสู้และความสับสนทำให้การขนส่งตัวนักโทษ และการถอนกำลังเป็นไปอย่างล่าช้า
4:20 PM เครื่องแบล๊กฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์วัน ซึ่งควบคุมการบินโดยพันจ่าคลิฟฟ์ วอลค็อตต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนด้วยฉายา "เอลวิส" ถูกยิง และตกลงในจุดที่อยู่ห่างจากอาคารเป้าหมาย ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณห้าช่วงตึก
4:22 PM ประชาชนชาวโซมาเลียรีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ นักโทษ, ขบวนรถ และกองกำลังภาคพื้นดิน เริ่มเคลื่อนกำลังไปยังจุดที่เครื่องบินตก แบล๊กฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์โฟร์ ซึ่งควบคุมการบินโดยพันจ่าไมก์ ดูแรนต์ มุ่งหน้าไปยังจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลำแรกตก
4:28 PM ทีมค้นหาและช่วยเหลือโรยตัวลง เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
4:35 PM ขบวนรถของสหรัฐฯ เลี้ยวผิดทาง และเริ่มขับวนเวียนหลงอยู่ในถนนที่วกวนไปมาของโมกาดีชู และต้องเผชิญหน้ากับการปิดกั้นถนนในทุกมุมถนน 4:40 PM เครื่องแบล๊กฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์โฟร์ ของไมก์ ดูแรนต์ถูกยิง และตกลงยังจุดที่ห่างจากอาคารเป้าหมาย ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณหนึ่งไมล์ กลุ่มประชาชนที่ไม่เป็นมิตร เริ่มเคลื่อนกำลังไปยังเครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกยิงตก
4:42 PM พลแม่นปืนประจำหน่วยเดลต้าฟอร์ซสองนาย คือ สิบเอกแรนดี้ ชักฮาร์ต และแกรี่ กอร์ดอน อาสาสมัครบุกไปยังจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลำที่สองตก เพื่อช่วยคุ้มครองดูแรนต์ที่ได้รับบาดเจ็บ และลูกทีมของเขา
4:54 PM ขบวนรถที่หลงทาง อันประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่กว่าครึ่ง ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บก็เสียชีวิตแล้ว ต้องล้มเลิกการค้นหาเครื่องแบล๊กฮอว์กลำแรกที่ถูกยิงตก และเริ่มต้นคลำทางเพื่อมุ่งหน้ากลับฐานทัพสหรัฐฯ ที่ริมฝั่งหมาสมุทรอินเดีย
5:03 PM ขบวนรถฉุกเฉินที่จำนวนน้อยกว่า ถูกส่งออกมาเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ที่ยังคงติดอยู่ในจุดที่เครื่องของดูแรนต์ตก ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการถูกโจมตี การปิดกั้นถนน และอุปสรรคอื่นๆ
5:34 PM ขบวนรถทั้งสองขบวน ซึ่งโดนโจมตีมาอย่างหนัก มาบรรจบรวมกำลังกัน และล้มเลิกความพยายาม ที่จะบุกเข้าไปยังจุดที่เครื่องของดูแรนต์ตก ทีมทหารและเดลต้าคอมมานโดที่ยังคงเหลืออยู่ เริ่มรายล้อมเข้าหาจุดที่เครื่องแบล๊กฮอว์กลำแรกตก
5:40 PM ฝูงพลเรือนโซมาเลียบุกเข้าล้อมจุดที่เครื่องของดูแรนต์ตก สังหารชักฮาร์ต และกอร์ดอน รวมไปถึงลูกทีมที่เหลือ ของเครื่องซูเปอร์ซิกซ์โฟร์ ยกเว้นดูแรนต์ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งโดนจับเป็นตัวประกัน และถูกทหารโซมาเลียนำตัวไป
5:45 PM ขบวนรถสองขบวนเดินทางกลับสู่ฐานทัพ เจ้าหน้าที่จำนวน 99 นายยังคงติด และถูกรายล้อมอยู่ในเมือง และต้องต่อสู้เพื่อรักษาชีวิต
10:00 PM ขบวนคุ้มกันกลุ่มใหญ่ พร้อมด้วยกลุ่มเม้าต์เท่น ดิวิชั่นที่สิบสองกลุ่ม และทาสก์ฟอร์ซ แรนเจอร์ที่เหลือ รวมไปถึงขบวนรถถังของปากีสถาน และรถหุ้มเกราะของมาเลเซีย ภายใต้กองกำลังรักษาความสงบของสหประชาชาติ เริ่มรวมตัว เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือทหารที่โดนรายล้อมอยู่
11:23 PM ทีมช่วยเหลือเริ่มออกเดินทางสู่โมกาดีชู
1:55 AM ทีมช่วยเหลือไปถึงกลุ่มทหารที่ติดอยู่ในวงล้อม ค่ำคืนนั้นตกเป็นของ "ทีมตามล่ายามค่ำคืน" ของสหรัฐ เมื่อพวกเขาบุกตะลุยยิงไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี ลิตเติลเบิร์ด ที่คอยคุ้มกันเพื่อนทหารที่วิ่งอยู่ในถนนเบื้องล่าง
3:00 AM ทีมช่วยเหลือพยายามเคลื่อนย้ายศพของ คลิฟฟ์ วอลค็อตต์ นักบินของเครื่องซูเปอร์ซิกซ์วัน เพื่อเป็นไปตามหลักการที่พวกเขาตั้งใจไว้ว่า จะไม่ยอมทิ้งเพื่อนเอาไว้เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
5:30 AM ในที่สุด ทีมช่วยเหลือสามารถกู้ร่างของวอลค็อตต์ได้สำเร็จ และเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากเมือง แต่เนื่องจากยานพาหนะอัดแน่น ไปด้วยกองกำลังของเท่นต์เม้าต์เท่นและสหประชาชาติ ทีมแรนเจอร์จึงต้องอยู่รั้งท้ายขบวนเพื่อตอบโต้ต่อการโจมตี
6:30 AM ทีมช่วยเหลือกลับสู่สนามกีฬา ที่อยู่ในการควบคุมของสหประชาชาติ ได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บ 73 ราย ไม่มีการยืนยันจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายของชาวโซมาเลีย แต่น่าจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน กับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
จากฝีมือของผู้กำกับเลื่องชื่อ ริดลีย์ สก็อตต์ และผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ โดยอิงเรื่องราวจากเหตุการณ์จริง Black Hawk Down คือเรื่องราวอันห้าวหาญของกลุ่มทหารชั้นยอดของสหรัฐฯ ที่ถูกส่งตัวไปยังโมกาดีชู ประเทศโซมาเลีย ในเดือนตุลาคม ปี 1993 ในฐานะส่วนหนึ่ง ของปฏิบัติการรักษาความสงบของสหประชาชาติ ภารกิจของพวกเขาก็คือ การลักพาตัวนายทหารผู้นำสองนายของผู้นำโซมาเลีย โมฮาเม็ด ฟาร์ราห์ ไอดิด โดยภารกิจครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยุติสงครามกลางเมือง และความอดอยากที่กำลังสร้างความเสียหายให้กับประเทศแห่งนี้
กองทัพสหรัฐฯ เดินทางไปยังโซมาเลียด้วยความตั้งใจดี โดยหวังจะช่วยเหลือชีวิตผู้คน ไม่ใช่สังหารผู้คน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนโยบายทางการเมืองของโซมาเลีย ที่ไม่มีความเป็นมิตร และยากที่จะเข้าใจ ที่ซึ่งญาติพี่น้องต้องต่อสู้กันมานานกว่าพันปี เหล่าทหารหาญกลุ่มนี้ ต้องเผชิญกับการเรียนรู้ที่โหดร้าย เมื่อภารกิจที่ผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ต้องพบกับจุดพลิกผันอันคาดไม่ถึง และลงเอยด้วยการต่อสู้ ครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ นับแต่สงครามเวียดนามเป็นต้นมา
เมื่อภารกิจเริ่มต้นขึ้น ชาย หญิง และเด็กๆ ทุกคนในโมกาดีชูต่างจับอาวุธลุกขึ้นต้านชาวอเมริกัน เป็นผลทำให้เมืองแห่งนี้เปลี่ยนสภาพ กลายเป็นแดนสงครามอันโหดร้าย และเมื่อเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์ก ที่ยากจะทำลายสองลำ เกิดถูกยิงตกลงเหนือเมืองโมกาดีชู ภารกิจครั้งนี้ต้องพลิกผันไปสู่การแข่งขันกับเวลาเพื่อช่วยเหลือลูกเรือที่รอดชีวิต รวมไปถึงกลุ่มทหารที่ตกค้างอยู่ในเมือง กลุ่มทหารหนุ่ม และหน่วยเดลต้าฟอร์ซที่เชี่ยวชาญการรบ ต้องร่วมต่อสู้กับอุปสรรคเคียงบ่าเคียงไหล่ พวกเขาต้องติด และบาดเจ็บอยู่ในเมืองโมกาดีชูที่ไม่เป็นมิตรนานกว่า 18 ชั่วโมง จนกระทั่งทีมช่วยเหลือ สามารถเดินทางมาช่วยเหลือพวกเขาได้ และขณะที่ตกอยู่ในวงล้อม ความเครียดลุกโชน ต้องสูญเสียเพื่อน บังเกิดมิตรภาพ ทหารเหล่านี้ได้เรียนรู้ ถึงธรรมชาติอันแท้จริงของสงครามและความกล้าหาญ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1993 อาจจะเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ในประวัติศาสตร์ แต่สำหรับชาวอเมริกันที่เอาชีวิตรอดมาได้ การเดินทางตั้งแต่ยามบ่ายจนถึงค่ำคืนวันนั้น คือช่วงเวลาในชีวิตของพวกเขาที่มีความชัดเจนที่สุด
สำหรับเหล่าทหารสหรัฐฯ ที่ไม่อาจพาชีวิตรอดมาได้ วันนั้นก็คือคำจารึกบนหลุมฝังศพของพวกเขา ในขณะที่ร่างถูกเผาผลาญไป ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นคละคลุ้ง ของเมืองอันโหดร้ายของอัฟริกา พวกเขาส่วนใหญ่ไม่เคยได้กลับมาฟังคำสดุดีในความกล้าหาญ เสียสละ และการไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัวของพวกเขา คนเหล่านี้คือกลุ่มคนพิเศษ ที่ต่อสู้ในสงครามแห่งโมกาดีชู และ Black Hawk Down เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของการต่อสู้ จะติดตามพวกเขาไปแบบก้าวต่อก้าว ขณะที่ความขัดแย้งบังเกิดขึ้น ทั้งในภาคพื้นดิน อากาศ และศูนย์บัญชาการ เรื่องราวส่วนมาก เป็นการมองผ่านสายตาของ สิบเอกเสนาธิการ แม็ตต์ เอฟเวอร์สแมนน์ (จอช ฮาร์ตเน็ตต์) ทหารหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยอุดมคติ ผู้ที่ความกล้าหาญต้องผจญการทดสอบ เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการหน่วยหนึ่ง ในทั้งหมดสี่หน่วยที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลอาคารเป้าหมาย อย่างไรก็ดี เรายังจะได้สัมผัสกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ผ่านสายตาตัวละครตัวอื่นๆ ด้วย
กองทัพสหรัฐฯ เดินทางไปยังโซมาเลียด้วยความตั้งใจดี โดยหวังจะช่วยเหลือชีวิตผู้คน ไม่ใช่สังหารผู้คน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนโยบายทางการเมืองของโซมาเลีย ที่ไม่มีความเป็นมิตร และยากที่จะเข้าใจ ที่ซึ่งญาติพี่น้องต้องต่อสู้กันมานานกว่าพันปี เหล่าทหารหาญกลุ่มนี้ ต้องเผชิญกับการเรียนรู้ที่โหดร้าย เมื่อภารกิจที่ผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ต้องพบกับจุดพลิกผันอันคาดไม่ถึง และลงเอยด้วยการต่อสู้ ครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ นับแต่สงครามเวียดนามเป็นต้นมา
เมื่อภารกิจเริ่มต้นขึ้น ชาย หญิง และเด็กๆ ทุกคนในโมกาดีชูต่างจับอาวุธลุกขึ้นต้านชาวอเมริกัน เป็นผลทำให้เมืองแห่งนี้เปลี่ยนสภาพ กลายเป็นแดนสงครามอันโหดร้าย และเมื่อเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์ก ที่ยากจะทำลายสองลำ เกิดถูกยิงตกลงเหนือเมืองโมกาดีชู ภารกิจครั้งนี้ต้องพลิกผันไปสู่การแข่งขันกับเวลาเพื่อช่วยเหลือลูกเรือที่รอดชีวิต รวมไปถึงกลุ่มทหารที่ตกค้างอยู่ในเมือง กลุ่มทหารหนุ่ม และหน่วยเดลต้าฟอร์ซที่เชี่ยวชาญการรบ ต้องร่วมต่อสู้กับอุปสรรคเคียงบ่าเคียงไหล่ พวกเขาต้องติด และบาดเจ็บอยู่ในเมืองโมกาดีชูที่ไม่เป็นมิตรนานกว่า 18 ชั่วโมง จนกระทั่งทีมช่วยเหลือ สามารถเดินทางมาช่วยเหลือพวกเขาได้ และขณะที่ตกอยู่ในวงล้อม ความเครียดลุกโชน ต้องสูญเสียเพื่อน บังเกิดมิตรภาพ ทหารเหล่านี้ได้เรียนรู้ ถึงธรรมชาติอันแท้จริงของสงครามและความกล้าหาญ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1993 อาจจะเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ในประวัติศาสตร์ แต่สำหรับชาวอเมริกันที่เอาชีวิตรอดมาได้ การเดินทางตั้งแต่ยามบ่ายจนถึงค่ำคืนวันนั้น คือช่วงเวลาในชีวิตของพวกเขาที่มีความชัดเจนที่สุด
สำหรับเหล่าทหารสหรัฐฯ ที่ไม่อาจพาชีวิตรอดมาได้ วันนั้นก็คือคำจารึกบนหลุมฝังศพของพวกเขา ในขณะที่ร่างถูกเผาผลาญไป ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นคละคลุ้ง ของเมืองอันโหดร้ายของอัฟริกา พวกเขาส่วนใหญ่ไม่เคยได้กลับมาฟังคำสดุดีในความกล้าหาญ เสียสละ และการไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัวของพวกเขา คนเหล่านี้คือกลุ่มคนพิเศษ ที่ต่อสู้ในสงครามแห่งโมกาดีชู และ Black Hawk Down เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของการต่อสู้ จะติดตามพวกเขาไปแบบก้าวต่อก้าว ขณะที่ความขัดแย้งบังเกิดขึ้น ทั้งในภาคพื้นดิน อากาศ และศูนย์บัญชาการ เรื่องราวส่วนมาก เป็นการมองผ่านสายตาของ สิบเอกเสนาธิการ แม็ตต์ เอฟเวอร์สแมนน์ (จอช ฮาร์ตเน็ตต์) ทหารหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยอุดมคติ ผู้ที่ความกล้าหาญต้องผจญการทดสอบ เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการหน่วยหนึ่ง ในทั้งหมดสี่หน่วยที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลอาคารเป้าหมาย อย่างไรก็ดี เรายังจะได้สัมผัสกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ผ่านสายตาตัวละครตัวอื่นๆ ด้วย
ผู้สังเกตการณ์ กริมส์ (ยวน แม็คเกรเกอร์) เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ผู้ซึ่งความฝันที่จะได้ผจญภัย ได้กลายเป็นจริงกลางท้องถนนของโมกาดีชู เมืองอันห่างไกลจากเครื่องพิมพ์ดีด และโต๊ะทำงานที่สำนักงานใหญ่
พันโทแดนนี่ แม็คไนต์ (ทอม ไซซ์มอร์) ผู้นำอันเยือกเย็น ของหน่วยค้นหาผู้สูญหายแห่งฮัมวีส ซึ่งต้องผจญกับการโจมตีของทหารโซมาเลีย ในขณะที่พยายามค้นหาแบล๊กฮอว์ก ที่โดนยิงตกให้พบ สิบเอก 'ฮู้ต' กิ๊บสัน (อีริค บาน่า) ทหารหน่วยเดลต้าผู้เป็นตำนาน แม้กระทั่งในหมู่เพื่อนทหารในหน่วยรบพิเศษ เจฟฟ์ แซนเดอร์สัน (วิลเลี่ยม ฟิชต์เนอร์) จ่าสิบเอกประจำหน่วยเดลต้า ผู้ซึ่งความเป็นมืออาชีพ ต้องผ่านการทดสอบระหว่างการต่อสู้... พันจ่าไมก์ ดูแรนต์ (รอน เอลดาร์ด) นักบินประจำเครื่องแบล๊ก ฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์ โฟร์ เฮลิคอปเตอร์ลำที่สองที่โดนยิงตกเหนือเมืองโมกาดีชู... กัปตันไมก์ สตีล (เจสัน ไอแซ็คส์) ผู้บัญชาการหน่วยภาคพื้นดิน พันจ่าคลิฟฟ์ วอลค็อตต์ (เจเรมี่ ไพเว่น) นักบินที่โด่งดังประจำเครื่องแบล๊กฮอว์ก ซึ่งมีฉายาเป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนๆ ว่า "เอลวิส" เป็นคนแรกที่พ่ายแพ้ในสงคราม...
พลตรีวิลเลี่ยม เอฟ แกร์ริสัน (แซม เชพพาร์ด) ผู้บัญชาการแห่งหน่วยทาสก์ ฟอร์ซ แรนเจอร์ ที่เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมด อยู่ที่ศูนย์กลางปฏิบัติการณ์ ในขณะที่แบล๊ก ฮอว์กสองลำต้องโดนยิงตก และภารกิจครั้งนั้น นำไปสู่มิติใหม่ที่แสนเจ็บปวด
สิบเอกเสนาธิการ เจฟฟ์ สทรูคเกอร์ (ไบรอัน แวน ฮอลต์) ผู้เอาชีวิตรอดจากสงครามนรกครั้งนี้ เพียงเพื่อจะกลับมาช่วยเหลือเพื่อนทหารของเขา... พลทหารท็อดด์ แบล๊กเบิร์น (ออร์แลนโด้ บลูม) ผู้ซึ่งตกจากเครื่องแบล๊กฮอว์ก ซูเปอร์ซิกซ์วันในระดับความสูง 60 ฟุต และได้นำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายที่ตามมา... จ่าสิบเอก แรนดี้ ชักฮาร์ต (จอห์นนี่ สตรอง) และ พันจ่าอากาศเอก แกรี่ กอร์ดอน (นิโกลาจ คอสเตอร์-วอลเดา) พลแม่นปืนประจำหน่วยเดลต้า ผู้อาสาปกป้องผู้รอดชีวิต จากเครื่องแบล๊กฮอว์กลำที่ 2 ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับเหรียญกล้าหาญ ผู้สังเกตการณ์ ชอว์น เนลสัน (อีเว่น เบรมเนอร์) และ แลนซ์ ทูมบลีย์ (โธมัส ฮาร์ดี้) ที่ต้องแยกจากทีมของเขา ในช่วงต้นของภารกิจ และต้องดิ้นรนอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยคนตาย เพื่อเดินทางกลับมาร่วมทีมกับเพื่อนๆ ของเขา... ...และตัวละครอีกมากมาย ที่รับบทแสดงโดยนักแสดงหน้าใหม่ และนักแสดงหน้าเก่ามากมาย จากทั้งสองฝั่งของแอตแลนติก ซึ่งก็รวมทั้ง แกเบรียล แคสซุส, คิม โคตส์, ฮิวจ์ แดนซีย์, ไอแอน กรัฟฟัดด์, โธมัส กุยรี่, ชาร์ลี ฮอฟไฮเมอร์, แดนนี่ ฮอช, เอลจ์โก้ ไอวาเน็ก, เกลนน์ มอร์เชาเวอร์, เบรนแดน เซ็กซ์ตันที่สาม, ริชาร์ด ไทสัน, สตีเว่น ฟอร์ด, เอียน เวอร์โก้, เกรกอรี่ สปอร์ลีเดอร์, คาร์ไมน์ จิโอวินาซโซ่, คริส บีเท่ม, แท็ค ฟิตซ์เจอรัลด์, แมทธิว มาร์สเด้น, เคนต์ ลินวิลล์, เอนริเก้ เมอร์เซียโน่, ไมเคิล รูฟ, ไท เบอร์เรลล์, บอยด์ เกสต์เนอร์ และ เจสัน ฮิลเดอแบรนด์ ส่วนนักแสดงที่มารับบทเป็นทหารโซมาเลีย ได้แก่ เทรว่า อีเทียนน์, แอ๊บดิบาเชอร์ โมฮาเม็ด เฮอร์ซี่, ราซาค อาโดติ และ จอร์จ แฮร์ริส
ริดลีย์ สก็อตต์ หนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องสูงสุดแห่งยุค ดูจะเพลิดเพลินกับความสำเร็จอันโดดเด่น ด้วยการมีผลงานเป็นภาพยนตร์เรื่องฮิต ติดต่อกันถึงสองเรื่อง คือ Gladiator (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 12 รางวัล และยังได้รับรางวัลออสการ์, รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลออสการ์ของอังกฤษ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี) และ Hannibal ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ ผลงานเรื่องอื่นๆ ของสก็อตต์มีอยู่หลายเรื่อง ที่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างอิทธิพลสูงสุด ในประวัติศาสตร์แห่งสื่อ อาทิเช่น Alien, Blade Runner, Thelma and Louise และ Black Rain เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ คือหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล เขาคือเจ้าของภาพยนตร์ที่ตราตรึงอยู่ในวัฒนธรรมร่วมสมัย ผลงานของเขาทั้งทางด้านภาพยนตร์, โทรทัศน์ และวิดีโอ สามารถทำรายได้ไปกว่า $12.5 ล้านดอลลาร์ ตัวอย่างผลงานที่เป็นภาพยนตร์ของบรัคไฮเมอร์ ก็คือ ภาพยนตร์ฮิตทำเงินที่เปิดตัวฉาย ในวันทหารผ่านศึกของอเมริกาในปี 2001 เรื่อง Pearl Harbor และภาพยนตร์เรื่อง Remember the Titans, Gone in 60 Seconds, Enemy of the State, Armageddon, Con Air, The Rock, Crimson Tide, Days of Thunder, Top Gun, Beverly Hills Cop และ Flashdance สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down นี้ เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ และ ริดลีย์ สก็อตต์ ได้รวบรวมทีมงานหลังกล้องที่มีความสามารถ ซึ่งก็รวมถึงผู้กำกับภาพ สลาวอเมอร์ อิ๊ดเซียก (Proof of Life, ภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Dekalog ของ ครีสทอฟ คีสโลว์สกี้), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ อาร์เธอร์ แม็กซ์ (ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ และเจ้าของรางวัลออสการ์ของอังกฤษ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator ผู้เคยร่วมงานกับริดลีย์ สก็อตต์ในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Jane ด้วย), คอสตูม ดีไซเนอร์ แซมมี่ โฮวาร์ธ-เชลดอน (เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยคอสตูม ดีไซเนอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง Gladiator ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในสาขานี้ด้วย) และ เดวิด เมอร์ฟี่ (Hamburger Hill), ผู้ลำดับภาพ พีโทร สกาเลีย, เอซีอี (ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ของอังกฤษ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator และยังเคยได้รับรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์ของโอลิเวอร์ สโตนเรื่อง JFK) และผู้ประพันธ์ดนตรี ฮันส์ ซิมเมอร์ ผู้เคยสร้างสรรค์งานดนตรีให้กับ Gladiator และ Hannibal รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย, วิชวล สเปเชียล เอฟเฟกต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ทิม เบิร์ก และสเปเชียล เอฟเฟกต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ นีล คอร์บูลด์ ซึ่งทั้งคู่ได้รับรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator มาแล้ว, ผู้กำกับกองถ่ายย่อยที่ 2 อเล็กซานเดอร์ วิตต์ ที่เคยร่วมงานกับสก็อตต์ ในภาพยนตร์เรื่อง Gladiator และยังเคยทำงานให้กับภาพยนตร์ของเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์เรื่อง Remember the Titans ผู้อำนวยการสร้างบริหารของภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down คือ ไซม่อน เวสต์, ผู้ที่เคยร่วมงานกับเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์มานานอย่าง ไมก์ สเตนสัน และ แช๊ด โอมาน และเจ้าของสองรางวัลออสการ์ แบรงโก้ ลัสติก ผู้เคยทำหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์อย่าง Schindler’s List และภาพยนตร์ของริดลีย์ สก็อตต์เรื่อง Gladiator และ Hannibal บทภาพยนตร์เป็นฝีมือของ เคน นอแลน โดยนำเค้าเรื่องมาจากหนังสือของ มาร์ก โบว์เด้น Black Hawk Down ได้รับการจัดเรตโดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งอเมริกา ให้เป็นภาพยนตร์เรต R อันเนื่องมาจากภาพอันรุนแรงของสงคราม ที่มีความสมจริง และภาษา
ริดลีย์ สก็อตต์ หนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องสูงสุดแห่งยุค ดูจะเพลิดเพลินกับความสำเร็จอันโดดเด่น ด้วยการมีผลงานเป็นภาพยนตร์เรื่องฮิต ติดต่อกันถึงสองเรื่อง คือ Gladiator (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 12 รางวัล และยังได้รับรางวัลออสการ์, รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลออสการ์ของอังกฤษ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี) และ Hannibal ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ ผลงานเรื่องอื่นๆ ของสก็อตต์มีอยู่หลายเรื่อง ที่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างอิทธิพลสูงสุด ในประวัติศาสตร์แห่งสื่อ อาทิเช่น Alien, Blade Runner, Thelma and Louise และ Black Rain เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ คือหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล เขาคือเจ้าของภาพยนตร์ที่ตราตรึงอยู่ในวัฒนธรรมร่วมสมัย ผลงานของเขาทั้งทางด้านภาพยนตร์, โทรทัศน์ และวิดีโอ สามารถทำรายได้ไปกว่า $12.5 ล้านดอลลาร์ ตัวอย่างผลงานที่เป็นภาพยนตร์ของบรัคไฮเมอร์ ก็คือ ภาพยนตร์ฮิตทำเงินที่เปิดตัวฉาย ในวันทหารผ่านศึกของอเมริกาในปี 2001 เรื่อง Pearl Harbor และภาพยนตร์เรื่อง Remember the Titans, Gone in 60 Seconds, Enemy of the State, Armageddon, Con Air, The Rock, Crimson Tide, Days of Thunder, Top Gun, Beverly Hills Cop และ Flashdance สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down นี้ เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ และ ริดลีย์ สก็อตต์ ได้รวบรวมทีมงานหลังกล้องที่มีความสามารถ ซึ่งก็รวมถึงผู้กำกับภาพ สลาวอเมอร์ อิ๊ดเซียก (Proof of Life, ภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Dekalog ของ ครีสทอฟ คีสโลว์สกี้), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ อาร์เธอร์ แม็กซ์ (ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ และเจ้าของรางวัลออสการ์ของอังกฤษ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator ผู้เคยร่วมงานกับริดลีย์ สก็อตต์ในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Jane ด้วย), คอสตูม ดีไซเนอร์ แซมมี่ โฮวาร์ธ-เชลดอน (เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยคอสตูม ดีไซเนอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง Gladiator ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในสาขานี้ด้วย) และ เดวิด เมอร์ฟี่ (Hamburger Hill), ผู้ลำดับภาพ พีโทร สกาเลีย, เอซีอี (ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ของอังกฤษ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator และยังเคยได้รับรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์ของโอลิเวอร์ สโตนเรื่อง JFK) และผู้ประพันธ์ดนตรี ฮันส์ ซิมเมอร์ ผู้เคยสร้างสรรค์งานดนตรีให้กับ Gladiator และ Hannibal รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย, วิชวล สเปเชียล เอฟเฟกต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ทิม เบิร์ก และสเปเชียล เอฟเฟกต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ นีล คอร์บูลด์ ซึ่งทั้งคู่ได้รับรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator มาแล้ว, ผู้กำกับกองถ่ายย่อยที่ 2 อเล็กซานเดอร์ วิตต์ ที่เคยร่วมงานกับสก็อตต์ ในภาพยนตร์เรื่อง Gladiator และยังเคยทำงานให้กับภาพยนตร์ของเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์เรื่อง Remember the Titans ผู้อำนวยการสร้างบริหารของภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down คือ ไซม่อน เวสต์, ผู้ที่เคยร่วมงานกับเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์มานานอย่าง ไมก์ สเตนสัน และ แช๊ด โอมาน และเจ้าของสองรางวัลออสการ์ แบรงโก้ ลัสติก ผู้เคยทำหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์อย่าง Schindler’s List และภาพยนตร์ของริดลีย์ สก็อตต์เรื่อง Gladiator และ Hannibal บทภาพยนตร์เป็นฝีมือของ เคน นอแลน โดยนำเค้าเรื่องมาจากหนังสือของ มาร์ก โบว์เด้น Black Hawk Down ได้รับการจัดเรตโดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งอเมริกา ให้เป็นภาพยนตร์เรต R อันเนื่องมาจากภาพอันรุนแรงของสงคราม ที่มีความสมจริง และภาษา
ขอขอบคุณที่มา http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/blackhawkdown/bhd.html
No comments:
Post a Comment