ประวัติและความเป็นมาของทหารพลร่มไทย หลักสูตรส่งทางอากาศ หน่วยรบพิเศษของไทย Thai Special force Airborne School in Lopburi
Thursday, June 11, 2009
หลักสูตรแทรกซึมทางอากาศเบื้องสูง รุ่นที่ 33/44
นี่มันก็นานมาแล้วนี่หน่า ตั้งแต่เข้าเรียนหลักสูตรนี้เมื่อปี 2544 ซึ่งในรุ่นนั้นเป็นรุ่นที่มีคนเข้าเรียนด้วยกันประมาณ 60 คนทั้งนายทหารและนายสิบ จำได้ว่าขณะนั้นกำลังเดินทางไปฝึกหนักสูตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญของนายทหารจากประทเศบังกลาเทศ ที่ จว.ชลบุรี ในงานเเลี้ยงขอบคุณครูและ จทน.ในการฝึก ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับครูฝึกการกระโดดร่ม ที่มากฝีมือคนหนึ่งของ รร.สพศ.ศสพ. คือ ครูปรีดา อยู่เจริญ ได้ชักชวนให้มาสมัครเรียน โดยบอกว่าครูจะช่วยฝึกให้เป็นพิเศษเลย 555 เด็กเส้นนะเนี่ย ทำงัยดีละ ช่วยไม่ได้ คิดอยู่นานเหมือนกัน เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนสงครามพิเศษ ก็เลยตัดสินใจว่า Ok เอางัยเอากัน ลองดูสักตั้งก็ได้ คงไม่เสียหลายหรอก ฮิฮิ จำได้ว่า รอง ผบ.รร.สพศ.ศสพ. พ.อ.สิทธิพร อุดมชาติ ยศขนะนั้นได้เรียกไปพบว่าแน่ใจนะ แต่ท่านก็ใจดีอนุมัติให้ศึกษาได้ พอเริ่มเข้าศึกษา ก็เป็นการเรียนการหัดพับร่ม การเรียนวิชาการในห้องเรียน พละศึกษา การฝึกตามสถานี พับร่ม โดดหอ แก้ไขเหตุติดขัด ภาพรวมๆ ก็พอ ok เหนื่อยนิดหน่อยแต่ก็สนุกดี ตั้งใจเรียนโดยเฉพาะตอนพับร่ม พับช้าและปราณีตอยู่นั้นแหละ จะไม่ให้ช้าได้งัย คนไม่เคย และยังกลัวว่ามันจะไม่กางเอา และไม่อยากเปิดร่มสำรองหรอกนะ ผ่านการฝึกสัปดาห์แรก เป็นการฝึก แดะตัวบนพื้นและบนโต๊ะ ขอบอกทรมานมากๆ เยี่ยวเหลืองเลย เดี่ยวก็ขาแขนไม่เท่ากัน ไม่สมดุลบ้าง จากนั้นเข้าสู่อาทิตย์ที่สองการฝึกก็ยังไม่ค่อยผ่อนลงมากนัก ยังหนักอยู่แต่เน้นการพับร่ม และการทดสอบกระโดดหอ ครูดา คนปั้นบอกว่าเราท่าทางไม่ค่อยดีนะ แต่ก็ผ่านการทดสอบโดดหอมาได้แบบฉิวเฉียด และสัปดาห์นี้ก็มีการฝึกจำลองการลอยตัวในอุโมงค์ลมด้วย วันแรกมีการนำเอาเชือกมาโยงด้านหลังและครูช้วยจับช่วยดัน แตมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย เล่นยากซิบเป้งทำเอาเกือบหมดกำลังใจ แต่พอสองสามวันต่อมาได้คำแนะนำจากเพื่อนๆ เขาบอกให้แดะและพับขามาตั้งฉากไว้เท่านั้นแหละมันติดลมเป็นครั้งแรก เล่นได้ประมาณ 2-3 นาทีซึ่งครูฝึกบอกว่า มันก็คงเพียงพอต่อการโดดออกมาจากเครื่องบิน และเปิดร่มได้โดยไม่มีปัญหา และแล้ววันที่รอคอยและเป็นวันที่เสียวที่สุด ตื้นเต้นที่สุดของชีวิตก็มาถึง คือการกระโดดจริงวันแรกจากอากาศยานเจ้า ฮ ชีนุก CH 60 จำได้ว่าแข้งขามันสั่นไปหมด ในใจก็คิดท่องภาวนาอะไรไปก็ไม่รู้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ โดยการโดดครั้งแรกนี้เป็นการโดดแบบต่อสาย โดยเขาเรียกว่า การเทินออก คือการเดินถอยหลังออกมาที่ริมท้ายปะตูของ ฮ แล้วก็สปริงตัวกระโดดออกมา พร้อมกับปากนับ 1001 1002 1003 และก็เปิกร่ม ความรู้สึกขณะยืนอยู่ท้ายแรมของ ฮ. บอกไม่ถูก หน้าคงซีดเป็นไก้ต้ม ปากสั่น อุจจาระวิ่งมาอยู่บนสมอง ตาดำหายไป เหนือแต่ถ้าขาว เมื่อครูฝึกปล่อยคนที่อยู่ก่อนออกไปแล้ว ก็ถึงคิวเรา เอาเป็นงัยเป็นกัน ลูกผู้ชาย เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว เป็นงั้ยเป็นกัน วินาทีนั้นเมื่อได้ยินเสียงครูบอกว่า โดด ก็สปริงตัวออกไป เงยหน้าขาพับตามสูตรที่ครูบอกมาเปะ ปากนับ ถึง 3 วินาที แลวมือขวาก็มาทำท่าดึงห่วง พอมองเห็นหน้าครูให้สัญญานว่า ok พอร่มกาง ค่อยยังชั่วหน่อย ที่นี้ก็จะพามันไปทางไหน จะบังคับอย่างไร ว่าแล้วก็ปลดสายบังคับออกมาจากด้านบน ทำการทดลองหมุน เลี้ยง ซ้ายที ขวาที กลับร่ม และป่ล่อยตามลมให้เดินเข้าสนามมา งงฉิบ กว่าจะลงถึงพื้นได้แทบแย่เลย ถึงพื้นก็เก็บร่ม เก็บอุปกรณ์ใส่ถุงร่มและแบกไปรายงานตัวกับครูที่โต๊ะ หนักมากเลยลงไกลจากจุดไปตั้งหลายร้อยเมตร แต่ไม่เป็นไรถึงเพื้นปลอดภัยก็ดีใจ รอดตายแล้ว เรา เอ้อ สำเร็จไปหนึ่ง เขาบอกเมื่อทำได้ครั้งที่หนึงแล้ว ครั้งต่อไปก็จะง่ายแล้ว ก็ว่ากันไป จากนั้นก็กลับโรงเก็บบอลลน นำร่มออกมาพับบรรจุใหม่เพื่อเตรียมกระโดดในวันรุ่งขึ้นต่อไป ส่วนเพื่อนทุกคนก็ปลอดภัย ลงมาแล้วคุยกันเสียงดังไปหมด ปนด้วยเสียงหัวเราะ เอ้อมีความสุขกันจริง จริงๆ แล้ว กระโดวันแรกของรุ่นนี้มีการทดลองโดย พ.อ. ที่ปรึกษา นสศ. โดยเลือกคนที่เล่นอุโมงค์ลมได้ดี และต้องอาสาโดดฟรีฟอลครั้งแรก 10 คน โดยไม่มีการต่อสาย และให้ครูตามประกบเลย ก็ OK นะทุกคนทำได้ ปลอดภัยทุกคน
ป้ายกำกับ:
บทความ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment