การเรียนในระดับมัธยมปลาย ม.4-6 คงเป็นช่วงเวลาของของสนุก ในช่วงเวลาของวัยรุ่นตอนปลาย ที่ปนด้วยความเครียดจากการเรียนและความสนุกตามวัยที่น่าจดจำหลายๆ อย่าง แตกต่างกันออกไป ตามสภาพแวดล้อมและปัจจัยพื้นฐานของแต่ละคน หรือครอบครัว หรือ โรงเรียน
แน่นอนส่วนใหญ่ที่เรียนในโรงเรียนดังๆ ในกรุงเทพ หรือปริมนฑล หรือจังหวัดใหญ่ๆ สถาบันดังๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น โรงเรียนเตรียมอุดม หรือโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โรงเรียนเทพสตรี หอวัง ฯลฯ 80 % น่าจะมุ่งเป้าหมายไปที่มหาวิยาลัย ชื่อดัง เช่น จุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ ในสาขาที่ได้รับความนิยม เช่น แพทย์ วิศวกร หรือ นักบิน เป็นต้น
แน่นอนว่าการแข่งขันที่สูง จึงต้องมีการเตรียมการติววิชาการตั้งแต่ เนิ่นๆ และตั้งใจเรียน และวางโปรแกรมอ่านหนังสือ ทบทวนวิชาการกันอย่างเป็นระบบ จึงจะสามารถผ่านเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยดีๆ ตามที่มุ่งหวังและตั้งใจไว้
สำหรับทางเลือกที่น่าสนใจ บางส่วนที่จำเป็นด้วยปัจจัยด้านการเงิน แน่นอนว่าการเรียนในระดับอุดมศึกษา จำเป็นต้องใช้เงินค่าเทอม ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ค่าที่พัก ค่าหอ ถ้ามาจาก ตจว. ค่าใช้จ่ายประจำวันต่างๆ ดังนั้น 4 ปี ในรั่วมหาลัย ก็คงเป็นเงิน หลัก หลายแสน หรือหลักล้าน ได้เหมือนกัน
การตัดสินใจหันเหทางเดินไปที่ หลักสูตรทางทหาร ในระดับที่จบการศึกษา จาก ม.6 มี 2 ระดับด้วยกันคือ
เครดิตภาพ: http://rtanc.ac.th/
รายละเอียด
1 ระดับเทียบเท่ามหาวิทยาลัย ใช้เวลาเรียน 4-6 ปี ทุกเหล่าทัพ บก เรือ อากาศ ตำรวจ ทั้งหญิง และชายมีอะไรบ้าง ครับ
- โรงเรียนนายร้อยตำรวจหญิง สามพราน จว.นครปฐม
- หลักสูตร พยาบาลกองทัพบก เรือ อากาศ และตำรวจ
- หลักสูตร แพทย์ทหาร วิทยาลัยพระมงกุฏ รับทั้งหญิงและชาย
การสอบมีทั้งรับตรง และสอบผ่านระบบ Admission ของระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ข้อดี
เรียนฟรี พักฟรี มีเงินเดือน และค่าชุดให้ระหว่างเป็นนักเรียน
เรียนจบ บรรจุ แต่งตั้งยศ ระดับสัญญาบัตร และ เลือกรับราชการในหน่วยของเหล่าทัพต่างๆ ทั่วประเทศ
ระดับที่ 2 เป็นระดับนายสิบ หรือระดับประทวนของทุกเหล่าทัพ
คุณวุฒิ ม.6 ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรของนักเรียนชาย ใช้เวลาเรียน 1-2 ปี โดยประมาณ
- กองทัพบก นักเรียนนายสิบ
- กองทัพเรือ นักเรียนจ่าทหารเรือ
- กองทัพอากาศ นักเรียนจ่าอากาศ
- ตำรวจ โรงเรียนนายสิบตำรวจ
ข้อดี
เรียนฟรี พักฟรี มีเงินเดือน และค่าชุดให้ระหว่างเป็นนักเรียน
เรียนจบ บรรจุ แต่งตั้งยศ ระดับประทวน และ เลือกรับราชการในหน่วยของเหล่าทัพต่างๆ ทั่วประเทศ
บทสรุป
จะเห็นว่าหลักสูตรทางทหาร จะเหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด หรือมีงบไม่จำกัด แต่ใจรักอาชีพทหารก็มี ข้อดีหลักๆ คือไม่มีค่าใช้จ่าย และยังมีเงินเดือนด้วยระหว่างการศึกษา เรียกว่า ประหยัดสุดๆ ไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่ทางบ้านสักบาท เผลอๆ อาจจะมีเงินเก็บส่งให้พ่อแม่ด้วยส่วนข้อเสีย
เป็นที่ทราบกันดีว่า อาชีพทหาร หรือหลักสูตรทางทหาร จะจำกัด สิทธิ และเสรีภาพ ทางกายและจิตใจ มากกว่า หลักสูตร ในมหาลัยเปิด หรือปืด ของรัฐและเอกชน ทั่วไป แบบ หน้ามือ หลังมือ
ส่วนจะแตกต่างกันขนาดไหน คงวัดออกมาเป็นตัวเลขเชิง สถิติ หรือเปรียบเทียบลำบาก แต่เอาเป็นว่า ต่างกันลิบลับ แน่นอน
ดังนั้น หากน้องๆ เป็นพวกชอบ slow life ไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ชอบการทำอะไรตามกฏ ตามระเบียบ กติกาที่กำหนดมากนัก มหาวิทยาลัย คือทางเลือกที่น้องๆ ต้องไป ส่วน สายทหาร อย่าเสียเวลาครับ
" ประสบการณ์ และความรู้บางอย่าง การบอกเล่าหรือถ่ายทอด ทางตัวอักษร หรือคำพูด ก็ยากที่จะรับรู้และเข้าใจได้ ต้องเจอและสัมผัสด้วยตนเองเท่านั้น "
No comments:
Post a Comment